ในที่สุดไทยเราก็เริ่มเข้าสู่ยุค 5G กันแล้ว ใครที่กำลังจะเปลี่ยนมือถือแล้วอยากได้ 5G หากยังไม่ได้อ่านบทความ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อมือถือ 5G ก็สมควรไปอ่านก่อน แล้วหลังจากอ่านแล้วค่อยมาอ่านบทความนี้อีกครั้งก็ไม่สาย เพราะในบทความนี้เราจะจัดอันดับมือถือ 5G น่าซื้อตามความเห็นของผมกัน โดยรายชื่อรุ่นทั้งหมดที่ยกมานี้ทุกรุ่นจะเป็นเครื่องที่สามารถใช้งานคลื่น 5G ในไทยได้อย่างแน่นอน
1. Realme X50 Pro 5G
Realme X50 Pro 5G เป็นมือถือ 5G ในตลาดกลางรุ่นใหม่ที่ Realme กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นี้ ซึ่ง Realme X50 Pro 5G นั้นใช้ชิปเป็น Snapdragon 865 ที่รองรับ 5G ทั้งแบบ SA และ NSA ทำให้สามารถใช้งานในไทยได้อย่างเต็มรูปแบบ
จุดเด่นของ Realme X50 Pro 5G ที่ทำให้มีความน่าซื้อเป็นอันดับ 1 นอกเหนือจากการที่รองรับ 5G แล้วก็คือ Realme X50 Pro 5G นั้นมาพร้อมหน้าจอที่มี Refresh Rate ที่สูงถึง 90Hz มีระบบชาร์จเร็ว VOOC flash charge 4.0 65W ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh ให้เต็มได้ใน 35 นาที นอกจากนี้ยังมีลำโพงแบบ Dual Super-Linear ที่มาพร้อมระบบเสียงแบบ Dolby Atmos และ Hi-Res กับระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Cooling อีกด้วย
สำหรับกล้อง Realme X50 Pro 5G ให้กล้องมาทั้งหมด 4 ตัว โดยมีกล้องหลักความละเอียด 64MP, กล้อง Telephoto ที่มีความละเอียด 12MP ซึ่งสามารถซูมแบบ Optical ได้ถึง 5 เท่า และซูมแบบ Hybrid ได้ถึง 20 เท่า, กล้อง Ultrawide 8MP ที่สามารถถ่ายภาพได้มุมกว้างถึง 119 องศา และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าเป็นกล้องคู่มีความละเอียด 32MP และกล้องมุมกว้างความละเอียด 8MP ที่สามารถถ่ายภาพได้มุมกว้างถึง 105 องศา
จากสเปคที่ว่ามาทั้งหมดนี้เลยทำให้ Realme X50 Pro 5G เป็นมือถือที่น่าโดนที่สุดแล้วในช่วงเวลานี้
สเปคเต็ม / รีวิว / ราคา : 28,990 บาท
2. vivo NEX 3 5G
vivo NEX 3 นั้นเคยเปิดตัวและขายในไทยมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และตอนนี้ก็ได้มีการนำ vivo NEX 3 รุ่นรองรับ 5G เข้ามาขายในไทยแล้วนะครับ โดยในปัจจุบัน vivo NEX 3 5G จะได้ Truemove-H เป็นผู้ขาย และแน่นอนว่าจะเป็นการซื้อแบบพ่วงแพ็กเกจรายเดือนด้วย แต่ข้อดีก็คือทำให้ราคาเครื่องต่ำกว่า 20,000 บาท สำหรับสเปคก็จะเหมือนกับ vivo NEX 3 ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้เลย
vivo NEX 3 มีจุดเด่นอยู่ที่เป็นมือถือไร้ปุ่ม กล้องหลัก 64MP พร้อมด้วยฟีเจอร์ Hyper-HDR สำหรับถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ แถมกล้องหน้ายังเป็นแบบ Pop-up ทำให้หน้าจอไร้รอยบากอีกด้วย นอกจากนี้ vivo NEX 3 ยังมาพร้อมชิปเสียง Hi-Fi AK4377A ทำให้สามารถขับเสียงออกมาได้อย่างเต็มที่ แถมด้วยระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Vapor Chamber ทำให้เครื่องไม่ร้อนจนเกินไปอีกด้วย ท้ายที่สุด vivo NEX 3 นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh mujรองรับระบบชาร์จเร็ว Vivo FlashCharge 44W ทำให้หายห่วงเรื่องเวลาชาร์จไปได้เลย
จุดสังเกตที่น่าสนใจคือถึงแม้ตัวเครื่องจะเป็นมือถือ 5G ก็ตามแต่ชิปประมวลผลที่ใช้เป็น Snapdragon 855+ ซึ่งเป็นรุ่นเก่าแทน ทว่าด้วยเหตุผลนี้ทำให้ vivo NEX 3 5G เป็นมือถือระดับเรือธงที่ถูกกว่าเรือธงรุ่นอื่นมาก
สเปคเต็ม / รีวิว / ราคา : 27,999 บาท ( ราคาเต็ม ), 16,199 บาท (ติดแพ็กเกจ 1,499 บาท นาน 12 เดือน)
3. Huawei Nova 7 / 7 SE
ในอันดับที่ 3 นี้เป็นมือถือ 5G ระดับกลางที่ Huawei พึ่งจะเปิดตัวไปหมาด ๆ อย่าง Huawei Nova 7 / 7 SE การที่ผมรวมทั้ง 2 รุ่นนี้มาไว้ในอันดับ 3 เนื่องจาก ทั้ง 2 นั้นมีสเปคส่วนใหญ่ใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่มีขนาด 6.5 นิ้ว(์Nova 7 SE) และ 6.53 นิ้ว (์Nova 7) RAM 8GB กล้องหลัง 4 ตัว 64MP แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 40W ที่สามารถชาร์จเต็มได้ใน 30 นาที
ใน Huawei Nova 7 นั้นมาพร้อมชิปประมวลผล Kirin 985 5G ที่มีความสามารถในการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น รองรับ 5G ทั้งแบบ SA และ NSA สามารถเชื่อมต่อความเร็วสูงสุดที่ 1277Mbps/ 170Mbps (Downlink/ Uplink) มี ROM ขนาด 256 GB แถมรองรับ NanoSD สูงสุด 256GB หมดห่วงเรื่องที่เก็บข้อมูลไปได้เลย
อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ GPU Turbo รุ่นใหม่ที่สามารถทำงานร่วมกับเกมได้อย่างน้อย 30 เกมไม่ว่าจะเป็น PUBG, Fortnite, ROV และอีกมากมาย ทำให้สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล เฟรมเรตสูงไม่มีสะดุด ส่วนกล้องหลังนั้น Huawei Nova 7 มาพร้อมกล้องหลัก 64MP, กล้อง Ultrawide 8MP, กล้อง Macro 2MP และกล้อง Telephoto 8MP ที่สามารถซูมแบบ Hybrid ได้สูงสุด 5 เท่า และซูมแบบ Digital ได้ไกลสูงสุด 20 เท่า
ใน Huawei Nova 7 SE นั้นมาพร้อมชิปประมวลผล Kirin 820 5G รุ่นใหม่ รองรับ 5G แบบ NSA เท่านั้น รองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูงสุดที่ 1278Mbps/ 170Mbps (Downlink/ Uplink) และด้วยชิปกราฟฟิก Mali-G57 พร้อมทั้ง GPU Turbo เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่รองรับเกมอย่างน้อย 30 เกม ไม่ว่าจะเป็น PUBG Mobile, Fornite, ROV และอีกมากมาย สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด สำหรับกล้องหลัง Huawei Nova 7 SE มาพร้อมกล้องหลัก 64MP, กล้อง Ultrawide 8MP, กล้องโบเก้ 2MP และกล้อง Macro 2MP
ท้ายสุดคงต้องขอเตือนด้วยว่า Huawei Nova 7 / 7 SE นั้นไม่มี GMS มาให้ ทำให้อาจจะใช้งานได้ลำบากเล้กน้อย แต่ทว่าในปัจจุบัน AppGallery ใน HMS นั้นก็มีแอพที่สามารถใช้งานได้มากขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแอปธนาคารต่าง ๆ หรือจะเป็นโซเชียลมีเดีย และล่าสุดเกมจากค่าย Garena ก็ทยอยเปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน AppGallery แล้วด้วย
สเปคเต็ม Nova 7 / สเปคเต็ม Nova 7 SE / รีวิว / ราคา : 11,990 บาท (Nova 7 SE), 16,990 บาท (Nova 7)
4. OPPO Find X2 / X2 Pro
มาที่มือถือ 5G ในระดับเรือธงอย่าง OPPO Find X2 Series กันบ้าง ในอันดับนี้เองผมก็ขอจับมารวมเป็นข้อเดียวเช่นกัน เนื่องด้วยสเคปที่ต่างกันไม่มากนัก ส่วนที่เหมือน ๆ กันก็จะมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ ที่มี Refresh Rate สูงถึง 120Hz ชิปประมวลผล Snapdragon 865 RAM ขนาด 12GB มีกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหน้า 32MP ระบบเสียงแบบ Dual Stereo แบบ Dolby Atmos รองรับระบบชาร์จเร็ว SuperVOOC 2.0 65W
จุดที่ต่างกันของ OPPO Find X2 / X2 Pro จะมีเพียงแค่ Find X2 ให้ ROM มา 256GB, กล้องหลัก 48MP IMX586, กล้อง Ultrawide 12MP, กล้อง Telephoto 13MP ที่สามารถซูมแบบ Hybrid ได้ 5 เท่า และแบบ Digital 20 เท่า, กันน้ำ-กันฝุ่น IP54 แบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh ส่วนใน Find X2 Pro ให้ ROM มาถึง 512GB, กล้องหลัก 48MP IMX689, กล้อง Ultrawide 48MP IMX586, กล้อง Telephoto แบบ Periscope 13MP ที่สามารถซูมแบบ Optical ได้ 5 เท่า แบบ Hybrid 10 เท่า และ Digital 60 เท่า, กันน้ำ-กันฝุ่น IP68 แบตเตอรี่ขนาด 4,260 mAh
จากส่วนต่างตรงนี้กับราคาที่ต่างกันถึง 7,000 บาท ทำให้ตกลงมาอยู่อันดับ 4 ทว่า OPPO Find X2 / X2 Pro นี้มีจุดเด่นที่อยากให้เอาไว้พิจารณาด้วยนั่นก็คือหน้าจอที่มี touch sampling rate 240Hz และมีการใส่ชิป O1 Ultra Vision Engine ช่วยให้ทุกคอนเทนต์ที่แสดงผลบนหน้าจอมีทั้งความลื่นไหล และสามารถแปลงวิดีโอธรรมดา ให้เป็น HDR ได้อีกด้วย (SDR to HDR)
(เฟิร์มแวร์ของ OPPO Find X2 / X2 Pro ในปัจจุบันนั้นยังเป็นรุ่นเบต้าอยู่ แต่หากอยากลองเล่น 5G ก็สามารถนำเครื่องเข้าไปอัพเดตที่ศูนย์ OPPO ได้เลย)
สเปคเต็ม Find X2 5G / สเปคเต็ม Find X2 Pro 5G / รีวิว / ราคา : 33,990 บาท (Find X2), 40,990 บาท (Find X2 Pro)
5. Huawei P40 / P40 Pro 5G
มาที่อันดับที่ 5 กันด้วย Huawei P40 / P40 Pro มือถือ 5G ระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Huawei ที่ยังคงความสามารถด้านกล้องเอาไว้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ด้วยชิป Kirin 990 5G นั้นรองรับ 5G ของไทยครบทุกคลื่นและสามารถใช้ได้ทันทีที่แกะออกจากกล่องด้วย เรียกได้ว่าพิเศษกว่าเรือธงยี่ห้ออื่นที่ขายในไทยตอนนี้มาก
สำหรับ Huawei P40 เป็นเรือธงรุ่นเล็กสุดของ P40 Series แต่ถึงจะบอกว่าเล็กสุดแต่สเปคที่ให้มาก็สมกับการที่เป็นเรือธง ไม่ว่าจะหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ใหญ่สะใจ RAM 8 GB + ROM 128GB ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว กล้องหลัก Ultra Vision 50MP, กล้อง Ultrawide 16MP และกล้อง Telephoto 8MP ที่สามารถซูมแบบ Optical ได้ 3 เท่า มีกันสั่น OIS + AIS สามารถบันทึกวีดีโอ 4K 60fps ได้ มีแบตเตอรี่ขนาด 3,800 mAh ที่รองรับ HUAWEI SuperCharge 22.5W แต่ด้วยราคาที่ไม่แรงมาก ทำให้มีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อย
สำหรับ Huawei P40 Pro นั้นเป็นเรือธงรุ่นกลางของ P40 Series ที่สเปคไม่ได้ต่างจากรุ่นท๊อปมากนัก ด้วยหน้าจอแบบ Flex OLED ขนาด 6.58 นิ้ว QHD+ พร้อมด้วย Refresh Rate 90Hz สะใจวัยรุ่นสุด ๆ RAM 8 GB + ROM 256GB ไม่ต้องกลัวเรื่องพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเลยไม่ว่าจะถ่ายรูปเยอะแค่ไหนก็ตาม
กล้องหลัง 4 ตัวเป็น กล้องหลัก Ultra Vision 50MP, กล้อง Cine Camera 40MP (Ultrawide), กล้อง SuperSensing Telephoto 12MP ที่สามารถซูมแบบ Optical ได้ 5 เท่า มีกันสั่น OIS + AIS สามารถบันทึกวีดีโอ 4K 60fps ได้ และกล้อง 3D Depth Sensing ส่วนกล้องหน้านั้นเป็นกล้องหน้าคู่ 32MP + Depth Camera ไม่ว่าจะสถานกาณณืไหนก็ถ่ายรูปสวย ๆ ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh ที่รองรับ HUAWEI SuperCharge 40W และ Wireless HUAWEI SuperCharge 27W อีกด้วย หมดห่วงเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่แบบฉุกเฉินไปได้เลย
สเปคเต็ม P40 / สเปคเต็ม P40 Pro / พรีวิว / ราคา : 22,990 บาท (P40), 31,990 บาท (P40 Pro)
6. Samsung Gakaxy A71 5G
มาที่อันดับแถมมือถือ 5G น้องใหม่ล่าสุดจาก Samsung อย่าง Galaxy A71 5G ที่ทำการอัพเกรดชิปประมวลผลใหม่ให้มีการรองรับ 5G รวมถึงอัพเกรดซอร์ฟแวร์ใหม่ให้ดียิ่งขึ้นด้วย ซึ่งสเปคที่เปลี่ยนไปใน Galaxy A71 5G นั้นคือการที่ได้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง Exynos 980 5G ทำให้ตัวเครื่องมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
สำหรับสเปคอื่น ๆ นั้นเรียกได้ว่าแทนจะคงเดิม ทั้ง RAM 8GB หน่วยความจำขนาด 128GB กล้องหลัง 4 ตัวที่เป็นกล้องหลัก 64MP กล้อง Ultrawide 12MP กล้อง Macro 5MP และกล้อง Depth 5MP กล้องหน้าเองก็ยังคงเดิมที่ 32MP แบตเตอรี่ก็มีขนาดเท่าเดิมที่ 4,500 mAh พร้อมรองรับยชาร์จเร็วขนาด 25W และที่สำคัฐช่องหูฟังขนาด 3.5มม. ก็ยังอยู่ดี ไม่ได้หายไปไหน
ด้วยความที่เป็นชิปประมวลผลใหม่ที่รองรับ 5G ทำให้ Galaxy A71 5G นั้นมีราคาเครื่องที่แพงขึ้นพอสมควร โดยแต่เดิมใน Galaxy A71 ที่เป็นรุ่น 4G นั้นจะมีราคาเพียง 13,990 บาท แต่พอเปลี่ยนชิปประมวลผลใหม่ให้รองรับ 5G แล้วราคาเพิ่มมาเป็น 19,990 บาท แต่ถึงอย่างนั้น Galaxy A71 5G นั้นก็มีการจัดโปรคู่กับ AIS ให้สามารถวื้อเครื่องได้ในราคาที่ถูกลง ซึ่งแพ็กเกจที่มาคู่กับตัวเครื่องนั้นแน่นอนว่าสามารถใช้งาน 5G ได้อย่างแน่นอน
สเปค / รีวิว / ราคา : 19,990 บาท
เทียบสเปคมือถือ 5G ทั้ง 5
Realme X50 Pro | vivo NEX 3 5G | OPPO Find X2 / Find X2 Pro | HUAWEI Nova 7 / 7 SE | HUAWEI P40 / P40 Pro | Samsung Galaxy A71 5G | |
---|---|---|---|---|---|---|
หน้าจอ | Super AMOLED 6.44 นิ้ว FHD+ Refresh Rate 90Hz HDR10+ | Super AMOLED 6.89 นิ้ว FHD+ HDR10 | AMOLED 6.7 นิ้ว QHD+ Refresh Rate 120Hz HDR10+ | Nova 7 : OLED 6.53 นิ้ว Nova 7 SE : IPS 6.5 นิ้ว FHD+ HDR10+ | P40 : OLED 6.1 นิ้ว FHD+ P40 Pro : Flex OLED 6.58นิ้ว QHD+ Refresh Rate 90Hz | Super AMOLED Plus 6.7 นิ้ว FHD+ |
CPU | Snapdragon 865 | Snapdragon 855+ | Snapdragon 865 | Nova 7 : Kirin 985 5G Nova 7 SE : Kirin 820 5G | Kirin 990 5G | Exynos 980 |
RAM | 12GB | 8GB | 12GB | 8GB | 8GB | 8GB |
ROM | 256GB | 256GB | Find X2 : 256GB Find X2 Pro : 512GB | Nova 7 : 256GB Nova 7 SE : 128GB | P40 : 128GB P40 Pro : 256GB | 128GB |
กล้องหลัง | 64MP + 12MP + 8MP + 2MP | 64MP + 13MP + 13MP | Find X2 : 48MP + 12MP + 13MP Find X2 Pro : 48MP + 48MP + 13MP | Nova 7 : 64MP + 8MP + 8MP + 2MP Nova 7 SE : 64MP + 8MP + 2MP + 2MP | P40 : 50MP + 16MP + 8MP P40 Pro : 50MP + 40MP + 12MP + 3D Depth | 64MP + 12MP + 5MP + 5MP |
กล้องหน้า | 32MP + 8MP | 16MP | 32MP | Nova 7 : 32MP Nova 7 SE : 16MP | P40 : 32MP Fixed + IR P40 Pro : 32MP Auto + IR Depth | 32MP |
แบตเตอรี่ | 4,200 mAh SuperDart Charge 65W | 4,500 mAh VivoFlash Charge 22.5W | Find X2 : 4,200 mAh Find X2 Pro : 4,260 mAh SuperVOOC 2.0 65W | 4,000 mAh HUAWEI SuperCharge 40W | P40 : 3,800 mAh + HUAWEI SuperCharge 22.5W P40 Pro : 4,200 mAh + HUAWEI SuperCharge 40W | 4,500 mAh Adaptive Fast Charge 25W |
ราคา | 28,990 บาท | 22,999 บาท | Find X2 : 33,990 บาท Find X2 Pro : 40,990 บาท | Nova 7 : 16,990 บาท Nova 7 SE : 11,990 บาท | P40 : 22,990 บาท P40 Pro : 31,990 บาท | 19,990 บาท |
ทั้งหมด 5 อันดับที่ได้กล่าวไปนี้นั้นเป็น 5 อันดับมือถือ 5G ที่โดยส่วนตัวเห็นว่าน่าซื้อที่สุดในช่วงเวลานี้ ซึ่งอ้างอิงจากความคุ้มค่า, สเปคและราคาของตัวเครื่อง หากเพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไรสามารถมาแบ่งปันกันได้นะครับ
The post 5 อันดับมือถือ 5G เครื่องศูนย์ไทย สเปคแรง น่าซื้อ ปี 2020 appeared first on Specphone.com.